BoxzaRacing TV News

BoxzaRacing TV News

MG GS สปอร์ต SUV สุดเร้าใจ ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ดีกรีสัญชาติอังกฤษ

 .

 

          ต้องยอมรับว่ากระแสรถยนต์อเนกประสงค์หรือ SUV กำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมากในขณะนี้ เห็นได้ชัดจากการคิดค้น ออกแบบ และพัฒนารถยนต์อเนกประสงค์จากค่ายรถยนต์ต่างๆ ที่พากันเปิดตัวกันอย่างไม่หยุดยั้ง และอีกหนึ่งค่ายที่กำลังไต่ระดับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือ ค่ายรถยนต์สัญชาติอังกฤษภายใต้แบรนด์ MG ที่ล่าสุดพึ่งเปิดตัวโมเดล SUV รุ่นใหม่ประจำค่ายอย่าง GS ไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชนิดที่เรียกได้ว่าฉีกทุกกฏเกณฑ์ ตอบโจทย์การใช้งานที่เหนือกว่า

 

MG ค่ายรถสัญชาติอังกฤษ

 

          ล่าสุดทางทีมงาน BoxzaRacing ได้รับเกียรติจากทาง บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ให้ทำการทดลองสมรรถนะของ MG GS รถยนต์อเนกประสงค์สัญชาติอังกฤษอย่างละเอียด และเจาะลึกทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมไปถึงการสัมผัสสมรรถนะอันเหนือชั้นของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ ที่ให้แรงม้าสูงถึง 218 ตัว

 

Diamond Flow Design สปอร์ตหรู ตามแบบฉบับรสนิยมอังกฤษ

 

ดีไซน์สปอร์ตหรู เท่ลงตัว สะกดทุกสายตา

          สำหรับภายนอกของ MG GS มาพร้อมกับความเป็น SUV ที่ให้ทั้งความสปอร์ต และหรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษ ภายใต้แนวคิด Brit Dynamic เริ่มจากด้านหน้าที่มาพร้อมกับไฟหน้าอันโฉบเฉี่ยวแบบ Projector HID พร้อมหัวฉีดล้างไฟหน้า Headlight Washer (ในรุ่น 2.0TX) เพิ่มความโดดเด่นด้วย Daytime Running Light แบบ LED กระจังหน้าแบบ V-Motion พร้อมประทับตรา MG ที่กึ่งกลาง กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED ในตัว ชัดเจนทุกการเคลื่อนไหว เส้นสายและรายละเอียดในจุดต่างๆ บ่งบอกถึงความพิถีพิถัน เรียบหรู ตามแบบฉบับรสนิยมอังกฤษ

 

ไฟหน้าโฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา

 

ไฟท้าย LED ดีไซน์สปอร์ต

 

          สง่างามลงตัวด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ Diamond Cut ขนาด 18 นิ้ว Bi Colour สัมผัสความหรูหรากับหลังคา Sun Roof ควบคุมการเปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ให้คุณได้เห็นโลกได้กว้างกว่าใคร เหนือระดับไปอีกขั้นกับไฟท้าย LED ดีไซน์สปอร์ตที่ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกหลังตามแบบฉบับของ MG GS ที่สะท้อนความเป็นตัวตนในแบบที่ไม่ตามใคร

 

ภายในหรูหรา กว้างสบาย ครบถ้วนทุกฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายดาย

 

เบาะนั่งไฟฟ้าปรับระดับ 6 ทิศทาง รองรับทุกสรีระ

 

สัมผัสความหรูหรา และสะดวกสบายที่เหนือระดับ

          สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ตอบสนองทุกการขับขี่ใน MG GS ที่มาพร้อมกับคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black ให้อารมณ์เรียบหรูแบบมีเอกลักษณ์ สวิตช์ควบคุมต่างๆ ถูกออกแบบให้สะดวกสบายในทุกการใช้งาน โดยที่ไม่ต้องละสายตาจากถนน พร้อมเบาะไฟฟ้าปรับระดับ 6 ทิศทาง พลังแห่งการขับเคลื่อนสามารถควบคุมได้ที่ปลายนิ้วด้วย Paddle Shift พร้อมระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

 

เบาะหลังสามารถปรับเอนได้ถึง 14 องศา และสามารถพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ

 

สามารถขนสัมภาระ พร้อมจักรยานได้อย่างสบายๆ

 

          พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นดีไซน์สปอร์ตแบบ 3 ก้าน สะดวกสบายกว่าด้วย Auto Vehicle Hold ให้คุณไม่ต้องเหยียบเบรคค้างไว้ในช่วงการจราจรติดขัด รื่นรมย์ทั้งภาพและเสียงด้วยหน้าจอ Touch Screen ขนาด 8 นิ้ว ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นระบบ Entertainment, ระบบแสดงภาพจากกล้องมองหลัง และระบบนำทาง สบายยิ่งขึ้นด้วยเบาะหลังที่สามารถปรับเอนได้ถึง 14 องศา ให้ความสบายของผู้โดยสารในทุกการเดินทาง และสามารถพับได้ 60:40 เพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เป็นคุณ

 

ขุมพลังเบนซิน Turbo 2.0 ลิตร แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว

 

ที่สุดแห่งพลังการขับเคลื่อนที่ไม่มีใครตามทัน

          สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนของ MG GS ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นขุมพลังที่ล้ำหน้าในแบบที่ไม่เคยมีในรถ SUV ระดับเดียวกันมาก่อน ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Turbo ขนาด 2.0 ลิตร แบบ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พละกำลัง 218 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 2,500 – 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับระบบเกียร์อัตโนมัติ TST – Twin Clutch Sportronic Transmission แบบ 6 สปีด ซึ่งทางค่ายเคลมเอาไว้ว่า ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที (ในรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ)

 

ขุมพลังเบนซิน เทอร์โบ ที่มอบสมรรถนะสูงถึง 218 แรงม้า

 

          ในการขับขี่ด้วยเกียร์ D ฟีลลิ่งที่ได้ เรียกว่านุ่มนวล ต่อเนื่อง ตอบสนองได้ดีและเพียงพอต่อทุกการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง ออกต่างจังหวัดหรือวิ่งทางไกล การเร่งแซงสามารถทำได้อย่างเฉียบขาด ไม่ต้องออกแรงลุ้น หรือเอาใจช่วยให้สามารถแซงได้อย่างปลอดภัย ซึ่งหากยังไม่เร้าใจพอ ผู้ขับสามารถผลักคันเกียร์มาอยู่ในตำแหน่ง S เพื่อให้เครื่องยนต์เปิดรอบการทำงานให้สูงขึ้น และสามารถปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามต้องการที่คันเกียร์ หรือ Paddle Shift (ในรุ่น 2.0TX) พร้อมกับเปลี่ยนสีของแผงมาตรวัดให้เป็นสีแดง เพื่อสื่อถึงอารมณ์ความเร้าใจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

 

 

          โดยเมื่ออยู่ในโหมด S รอบเครื่องยนต์จะมาแบบต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรอบทอร์คที่ 2,500 – 4,000 รอบ/นาที ซึ่งเป็นรอบที่ใช้งานบ่อยทั้งการออกตัว หรือเร่งแซง เมื่อรักษารอบให้อยู่ในช่วงนี้ พบว่าอัตราเร่งจะมาแบบฉับไว และไหลได้เรื่อยๆ ในช่วงความเร็วปานกลางไปจนถึงความเร็วสูง ผสานกับการทำงานของเกียร์อัตโนมัติ TST – Twin Clutch Sportronic Transmission แบบ 6 สปีด ทำให้การขับขี่สนุกเร้าใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับการรองรับที่ดีจากระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัทพร้อมเหล็กกันโคลงที่ด้านหน้า และอิสระมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลในด้านหลัง ที่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ โดยมีระบบความปลอดภัย เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อย่างระบบควบคุมการทรงตัว (SCS – Stability Control System)ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (TCS - Traction Control System) และระบบควบคุมการเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC – Curve Brake Control) สมกับเป็นผู้นำยนตกรรม SUV ที่คุ้มค่าแก่การครอบครองอย่างแท้จริง

 

 

เทคโนโลยีมาตรฐานความปลอดภัยที่เหนือชั้น

          สิ่งที่ต้องยอมรับในเรื่องประสิทธิภาพอีกประการหนึ่งใน MG GS คงหนีไม่พ้นระบบเบรกที่ทำงานได้อย่างซื่อตรง ทำให้สามารถชะลอความเร็ว หรือหยุดรถได้อย่างมั่นใจ อันเป็นผลมาจากระบบการป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน (ABS - Anti-lock Braking System) พร้อมระบบช่วยกระจายแรงเบรก (EBD - Electronic Brake Force Distribution) โดยในขณะที่การจราจรแออัด จะมีตัวช่วยอย่างระบบ (AVH – Auto Vehicle Hold) นอกจากนี้ยังมีตัวช่วยอื่นๆ ไม่ว่าจะป็น ระบบทำความสะอาดจานเบรกอัจฉริยะ (BDC - Intelligent Brake Disc Cleaning) ระบบเพิ่มแรงดันไฮดรอลิคเบรกให้เหมาะสม (OHBV – Optimized Hydraulic Brake Servo) ระบบป้องกันการลื่นไถล เมื่อเกียร์ลดต่ำอย่างฉับพลัน (MSR – Motor Control Slide Retainer) ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ (EBA – Electronic Brake Assist System) ตลอดจนระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAS – Hill-Start Assist) ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS – Tire Pressure Monitor System) และระบบเบรกมือไฟฟ้า (EPB – Electronic Parking Brake) ซึ่งทั้งหมดอยู่ภายใต้ระบบหนึ่งเดียวคือ SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM 13 และสามารถอุ่นใจได้ด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัย แข็งแกร่งด้วยเทคโนโลยี FSF - Full Space Frame ป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกที่นั่งด้วยถุงลมคู่หน้าและด้านข้าง

 

ล้ำหน้าเกินใครด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี inkaNet

 

ล้ำหน้าเกินใครด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี inkaNet

          นอกเหนือจากคุณสมบัติทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว MG GS ยังมีอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเกินใคร กับระบบ inkaNet ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะให้สามารถเชื่อมต่อ สื่อสาร และสั่งการรถยนต์ MG ผ่านสมาร์ทโฟนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

inkaNet เทคโนโลยีอัจฉริยะเชื่อมต่อ สื่อสาร และสั่งการรถยนต์ MG ผ่านสมาร์ทโฟนได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส

 

          โดยเทคโนโลยี inkaNet ประกอบไปด้วย 12 ฟังก์ชั่นด้วยกัน คือ ฟังก์ชั่นระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fence) ช่วยกำหนดขอบเขตรัศมีการขับรถยนต์, ฟังก์ชั่นระบบการนำทาง (Navigation) ให้ข้อมูลระบบนำทางผ่าน Google Maps และผู้ใช้สามารถเช็คตำแหน่งรถยนต์ได้ด้วยตัวเอง, ฟังก์ชั่นแจ้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน (Fuel Consumption) แสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันในการขับรถ, ฟังก์ชั่นระบบเลขาส่วนตัว (i-Call) ติดต่อ MG Call Centre เพียงปลายนิ้วสัมผัส, ฟังชั่นระบบวางแผนการเดินทาง (Travel Plan) สามารถส่งแผนการเดินทางไปยังหน้าจอแสดงผลในรถ, ฟังก์ชั่นระบบตรวจวิเคราะห์รถยนต์ (Remote Vehicle Diagnosis) สามารถตรวจเช็คความผิดปกติในการทำงานของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์ ระบบเบรค ระบบถุงลมนิรภัย ผ่านทางแอพพลิเคชั่น หรือติดต่อ MG Call Centre เพื่อขอรับคำแนะนำเบื้องต้นได้ทันที

 

inkaNet กับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครอบคลุมและง่ายดาย

 

          ฟังก์ชั่นระบบตรวจสอบสถานะของรถยนต์ (Vehicle Status Update) สามารถตรวจสอบสถานะต่างๆ ของรถยนต์ MG ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเลขไมล์, ระดับน้ำมันในถัง, อุณหภูมิภายนอกรถ, พลังงานแบตเตอรี่ และที่น่าสนใจ คือ สามารถตรวจสอบสถานะของประตูรถได้ว่าบานไหนปิดไม่สนิท, ฟังก์ชั่นระบบควบคุมการทำงานของรถยนต์ (Remote Vehicle Control) ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการสั่งล็อกหรือปลดล็อกรถจากระยะไกลผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน และสามารถค้นหารถได้ง่ายดายด้วย Find My Carฟังก์ชั่นระบบการเตือนความผิดปกติของรถยนต์ (Vehicle Alarm) ฟังก์ชั่นนี้จะส่ง SMS แจ้งเตือนให้เจ้าของรถทราบทันทีหากรถถูกสตาร์ท หรือเคลื่อนที่ไปโดยผิดปกติ, ฟังก์ชั่นระบบโทรออกและรับสายผ่านหน้าจอวิทยุ (Smart Call) สามารถรับสายและโทรออกได้จากหน้าจอวิทยุรถยนต์, ฟังก์ชั่นระบบรับส่งข้อความผ่านจอวิทยุ (Samrt SMS) สามารถรับส่งข้อความ SMS จากหน้าจอวิทยุรถยนต์, ฟังก์ชั่นระบบแชร์สัญญาณอินเตอร์เน็ตไร้สายผ่านหน้าจอวิทยุ (Wi-Fi Hotspot) สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสัญญาณ Wi-Fi จากหน้าจอวิทยุได้

 

MG GS ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่ตามใครไม่เป็น

 

          ในภาพรวมแล้ว MG GS ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ชื่นชอบยนตรกรรมสไตล์ครอสโอเวอร์สมรรถนะโดดเด่น และพร้อมมอบขีดสุดแห่งความเร้าใจในชนิดที่ไม่สามารถหาได้จากรถในคลาสเดียวกัน ภายใต้คอนเซ็ปท์ “ครอสโอเวอร์ยุคใหม่ ที่ตามใครไม่เป็น”

ราค่าจำหน่าย MG GS

  • MG GS รุ่น 2.0TD 2WD ราคา 1,210,000 บาท
  • MG GS รุ่น 2.0TX AWD ราคา 1,310,000 บาท
OTIZ THE OG
เขียนโดย: OTIZ THE OG
เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2559 - 18:33

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook

ข่าวความเคลื่อนไหว

วิดีโอ