Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก บนเส้นทางกรุงเทพฯ - อิตาลี กำลังเดินทางกันอย่างเข้มข้น โดยล่าสุดชาวคาราวานถูกเล่นงานโดยภัยพิบัติทางธรรมชาติเล่นงานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนทำให้การเดินทางล่าช้าลงไปเล็กน้อย แต่ด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น โดยเฉพาะช่วงล่างสุดแกร่งที่เกาะถนน และมีระบบช่วยทรงตัวมากมาย ส่งให้ Toyota Hilux REVO สามารถฝันฝ่าทุกอุปสรรคทั้งฝนตกหนัก พายุลุกเห็บ หรือแม้แต่น้ำน้ำท่วมขัง ไปได้อย่างปลอดภัย
เจอมุมสวยๆ ชักภาพเป็นที่ระลึกกันเล็กน้อย
ออกสตาร์ทวันที่ 5 ณ เมืองยี่บิง
วันที่ 5 ของการเดินทาง เหมือนเวลาที่ต้องใช้กรรมของชาวคาราวาน Toyota Hilux REVO บทพิสูจน์จริงระดับโลก เนื่องจากในวันก่อนไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายที่เมืองเฉินตูได้ทันการ เนื่องด้วยภัยธรรมชาติที่เล่นงานอย่างหนักหน่วง จนทำให้เวลาล่วงเลยและต้องแวะพักเอาแรงกันที่เมืองยี่บิงแทน ส่งผลให้ในวันนี้ ต้องวิ่งในระยะทางที่ไกลขึ้น จากเดิมเฉินตู - เทียนสุ่ย ระยะทาง 690 กม. กลายเป็นยี่บิง – เทียนสุ่ย ไกลขึ้นกว่าเดิมราว 200 กม. เส้นทางที่ใช้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นไฮไวย์ที่สามารถทำความเร็วได้ ไล่มาตั้งแต่ทางด่านหมายเลข G85 มุ่งหน้าสู่ S11, G93, G75 ก่อนเข้าสู่ทางด่วนหมายเลข G7011 ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่นำเราไปสู่จุดหมายยังเมืองเทียนสุ่ย เมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองแห่งมลฑลกานซู่
สภาพแวดล้อมสองข้างทางที่วิ่งผ่าน มีความแตกต่างจากวันก่อนๆ อย่างเห็นได้ชัด โดยมากจะเป็นที่ราบสูงและทุ่งหญ้า มีเขาชันและต้นไม้ใหญ่น้อยลง แน่นอนว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามากจนเกินไป ทางคณะจึงจำเป็นต้องเพิ่มความเร็วเล็กน้อย เพื่อให้ถึงจุดหมายในเวลาที่ไม่ดึกจนเกินไปนัก ความเร็วเฉลี่ยที่ใช้อยู่ประมาณ 120 กม./ชม. ซึ่งมีบางช่วงที่ต้องสร้างความเร็วในการเร่งแซง การเลือกใช้ Power Mode และระบบส่งกำลัง Sport Mode ในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยตัวเอง ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีและให้การตอบสนองที่รวดเร็ว ฉับไว ทำให้การเร่งแซงทุกครั้งทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ออกอาการให้ต้องลุ้น ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นที่ Toyota Hilux REVO สามารถตอบสนองเรื่องความเร้าใจได้อย่างไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว
รับบัตรทางด่วน ก่อนซัดกันยาวๆ หลายร้อย กม.
ต้องยอมรับเลยว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์และในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง ในวันที่ผ่านๆ มา คณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ต้องเจอกับสภาพเส้นทางที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าทึบบนภูเขาสูง หุบเขา ป่าทุ่งหญ้าที่ราบสูง ในวันนี้เราได้เจอกับอีกหนึ่งลักษณะที่แตกต่างจากที่เคยเจออย่างชัดเจน แม้ว่าหลักๆ ของภูมิประเทศจะยังคงเป็นภูเขา แต่สภาพของภูเขาที่เห็นนั้น กลับเปลี่ยนไปเป็นเขาหินทรายและทุ่งโล่งตลอดเส้นทาง โดยเราวิ่งผ่านแม่น้ำฮวงโห แวะรับประทานอาหารเที่ยวที่เมืองหลานโจว ก่อนเดินทางต่อสู่ เมืองซีหนิง เมืองหลวงของมณฑลชิงไห่ อันเป็นเมืองที่มีชาวมุสลิมและคนเชื้อสายธิเบตอาศัยอยู่มาก
ระยะทางจากเทียนสุ่ย – ซี่หนิง อยู่ที่ราว 550 กม. ซึ่งถือว่าไม่ไกลมาก ทำให้ชาวคณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก เดินทางกันแบบชิลล์ๆ ไม่ต้องรีบร้อนเช่นวันที่ผ่านๆ มา ด้วยสภาพเส้นทางที่ค่อนข้างโล่ง และเป็นทางราบยาวๆ ทำให้ผมมีโอกาสได้ลองใช้ระบบ Cruise Control อันเป็นอีกหนึ่งออพชั่นที่จัดมาให้ในปิคอัพอย่าง Toyota Hilux REVO ช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ โดยเฉพาะการต้องเดินทางไกลๆ ในความเร็วนิ่งๆ ซึ่งต้องบอกว่า ลดอาการเมื่อยล้าในการขับขี่ไปได้พอสมควรเลยทีเดียวครับ ในวันที่ 6 ชาวคณะปิดทริปกันแบบสบายๆ ก่อนตะวันตกดินกับระยะทาง 550 กม.
เมืองซี่หนิง ดินแดนสำคัญของชาวมุสลิม
วันที่ 9 มิถนายน 2559 นับเป็นวันที่ 7 ในการเดินทางของ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก โดยในวันนี้เอง จะเป็นการเดินทางจากเมืองซีหนิง สู่เมืองเจียยู่กวน โดยจะต้องผ่านเมืองจางเย่อันเป็นดินแดนแห่งภูเขาสีรุ้ง ซึ่่งตั้งอยู่ในเขตภูเขาฉีเหลียนซาน ระยะทางที่ต้องเดินทางในวันนี้ อยู่ที่ราว 550 กม. ซึ่งอาจจะดูไม่ไกลนัก แต่นับเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องใช้เวลาในการเดินทางยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง เนื่องจากคาราวาน Toyota Hilux REVO จะต้องเดินทางโดยถนนที่เป็นเส้นทางโลคัล 2 เลนสวนกัน ทำให้ไม่สามารถใช้ความเร็วได้สูงนัก อีกทั้งยังต้องเดินทางผ่านเทือกเขาสูงระฟ้า โดยสูงกว่าระดับน้ำทะเลร่วมๆ 3,800 ม. ซึ่งแน่นอนว่าสภาพอากาศในเส้นทางที่เราต้องเดินทางผ่าน มีความหนาวเย็นในระดับต่ำสุดที่ 6 องศาเซลเซียส
เส้นทางโลคัล กับความหฤโหดที่ยากจะหลีกเลี่ยง
ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อสุดแกร่ง ช่วยให้ทุกอุปสรรคกลายเป็นความท้าทายที่น่าค้นหา
นอกจากนี้คณะคาราวานยังต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโค้งน้อยใหญ่ในสภาพถนนที่เปียกลื่น เนื่องจากมีสายฝนโปรยปรายลงมาเป็นระยะ รวมไปถึงต้องเดินทางผ่านเส้นทางทุรกันดารที่เรียกได้ว่า ถ้าไม่ใช่รถออฟโร๊ดที่มีความแข็งแกร่งจริงๆ คงไม่สามารถผ่านได้อย่างแน่นอน กับการขับผ่านภูเขาลูกรังและข้ามธารน้ำ ซึ่งตรงนี้เอง เป็นโอกาสที่ผมจะได้ดึงเอาสมรรถนะของ Toyota Hilux REVO ออกมาใช้อย่างเต็มที่อีกครั้ง กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4LO ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับระบบล็อคเฟืองท้าย Diff Lock ที่ช่วยจับให้ล้อทั้ง 2 ฝั่ง ปลดปล่อยพละกำลังในการปีนป่าย ท้าทายทุกอุปสรรคได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นในจังหวะที่ไหลลงเขาด้วยระบบ DAC ที่ช่วยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอในขณะที่ลงทางชัน และหลังจากที่คาราวาน Toyota Hilux REVO ข้ามผ่านอุปสรรคบนเทือกเขาสูงมาได้เรียบร้อย ชาวคณะก็เดินทางต่อโดยขึ้นทางด่วนหมายเลข G30 สู่เมืองเจียยู่กวน โดยระหว่างทาง เราก็ได้เจอกับอีกหนึ่งสถานการณ์ไม่คาดฝัน กับภายุทะเลทรายที่ตั้งเค้ารออยู่เบื้องหน้า ซึ่งคณะคาราวานต้องวิ่งผ่านไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้ในเส้นทางที่เหน็บหนาว พาหนะคู่ใจของเรา ยังคงปลดปล่อยพลังได้อย่างเต็มที่
ด้วยความแข็งแกร่งของ Toyota Hilux REVO ทำให้คาราวานสามารถทำความเร็วและก้าวผ่านพายุทะเลทรายไปได้อย่างไม่ยากเย็น ไม่หวั่นแม้จะต้องรับการปะทะอย่างรุนแรงจากด้านข้าง โดยตัวรถยังคงทรงตัวได้นิ่่ง ไม่ออกอาการเป๋ หรือไหวติงให้ผู้ขับขี่ต้องเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อย ด้วยความสุดยอดเหล่านี้เอง ช่วยพาคณะคาราวานเดินทางมาถึงจุดหมายยังเมืองเจียยู่กวนได้อย่างปลอดภัย
ท่ามกลางพายุทะเลทราย Toyota Hilux REVO ยังคงเฉิดฉายอย่างโดดเด่น
แสงสุดท้ายที่เมืองเจียยู่กวน
ก่อนที่จะโบกมือลาเมืองเจียยู่กวนในเช้าวันที่ 8 ของการเดินทาง ชาวคณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก มีโอกาสได้สัมผัสกับอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างกำแพงเมืองจีน อันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การมาเยือน จนมีคำกว่าวที่ว่า “หากมาเมืองจียน ถ้าไม่ได้มาที่กำแพงเมืองจีน ก็เหมือนกับมาไม่ถึง”
ณ ปราการด่านสุดท้ายของกำแพงแห่งประจิมทิศ
โดยกำแพงเมืองจีนที่เมืองเจียยู่กวนนั้น ถือเป็นถือเป็นปราการด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีนฝั่งตะวันตก ซึ่งสร้างขึ้นในลักษณะของกำแพงดินสูงประมาณ 10.7 ม. ตั้งแต่ในปี ค.ศ.1372 และเมื่อชื่นชมความยิ่งใหญ่ของกำแพงเมืองจีนเป็นที่เรียบร้อย Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ก็ถึงเวลาต้องเดินทางต่อ โดยการเดินทางในวันนี้ เป็นวันสุดท้ายของคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 1 ซึ่งจะขับต่อเพื่อไปพบกับสื่อมวลชนกลุ่มที่ 2 ณ เมืองตุนหวง ก่อนที่กลุ่มที่ 2 จะแปะมือรับช่วงต่อจากเมืองตุนหวง สู่เมืองทัชเค้นท์ ประเทศอุซเบกิสถาน
สำหรับการเดินทางจากเมืองเจียยู่กวน – ตุนหวง จะใช้เส้นทางไฮเวย์ G30 เช่นเดิม ก่อนจะแยกสู่หมายเลข G3011 เพื่อสู่เมืองตุนหวง โดยสภาพสองข้างทางจะเป็นพื้นที่แห้งแล้งกึ่งทะเลทรายซึ่งมีลมปะทะแรงเล่นงานตลอดช่วง ความเร็วที่ใช้ในวันนี้อยู่ที่ 120 + กม./ชม. นอกจากความนิ่งของตัวรถ เรียบร้อย Toyota Hilux REVO แล้ว สิ่งหนึ่งที่อดชื่นชมไม่ได้เลย นั่นก็คือ เรื่องของความเงียบในห้องโดยสาร ซึ่งแม้จะใช้ความเร็วสูงและมีลมมาปะทะอย่างรุนแรงอยู่ตลอดการเดินทาง แต่ก็ถือว่ามีเสียงรบกวนในห้องโดยสารเพียงน้อยนิดเท่านั้น ซึ่งไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคที่สร้างความรำคาญในการเดินทางเลยแม้แต่น้อย และแน่นอนว่า...การเดินทางในสภาพที่เป็นทะเลทรายเช่นนี้ อากาศรอบข้างนั้นค่อนข้างร้อน และอาจส่งผลให้ผู้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้าได้ง่าย แต่อาจไม่ใช่กับการเดินทางด้วย เรียบร้อย Toyota Hilux REVO ครับ เพราะปิคอัพจากค่ายสามห่วงผู้นี้ มาพร้อมกับช่องรักษาความเย็น Cool Box เป็นที่กักเก็บความเย็นของเครื่องดื่มที่ผมแช่ไว้ ช่วยเติมความสดชื่นในการเดินทางได้ตลอดช่วง
โดยก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่เมืองตุ้นหวง คณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ต้องขับผ่านอีกหนึ่งอุปสรรค นั่นก็คือ ทะเลทรายหมิงซาซาน กับเนินทรายที่มีความสูงถึง 100 ม. งานนี้ชาวคาราวานใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ 4HI พร้อมรักษาความเร็วอย่างต่อเนื่อง เพื่อพา Toyota Hilux REVO ก้าวผ่านอุปสรรคอย่างเนินทรายไปได้อย่างไม่ยากเย็นครับ รวมระยะทางในวันนี้อยู่ที่ประมาณ 400 กม. และปิดทริปสำหรับสื่อมวลชนกลุ่มแรก กรุงเทพฯ – ตุนหวง ที่ระยะทาง 5,160 กม. ครับ
แม้ทะเลทรายก็มิอาจหยุดยั้งสมรรถนะอันเร่าร้อนของ Toyota Hilux REVO ได้
วันสุดท้ายของคณะสื่อมวลชนกลุ่มที่ 1 เป็นการส่งไม้ผลัดให้กับกลุ่มที่ 2 ซึ่งต้องเดินทางต่อไปยังเมืองฮามิ โดยก่อนที่จะเดินทาง สื่อมวลชนทั้ง 2 กลุ่ม รวมถึงสมาชิกในคาราวาน ได้ออกเดินทางไปชมความมหัศจรรย์ของถ้ำโม่เกา ซึ่่งเป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ที่หน้าผาเชิงเขาด้านตะวันออกของภูเขาหมิงซาซาน ห่างจากเมืองตุนหวงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ 25 กิโลเมตร โดยกระจายบนหน้าผาจากบนถึงล่าง รวม 5 ชั้น พอเข้าไปถึงจะเห็นช่องต่างๆ อย่างชัดเจน โดยมีความยาวจากเหนือจรดใต้ 1,600 เมตร อุโมงค์นี้เริ่มขุดเจาะตั้งแต่ปี ค.ศ.366 สมัยราชวงศ์ตงจิ้น หลังจากนั้น มีการขุดเจาะต่อจากสมัย 16 ก๊ก ถึงสมัย ราชวงศ์หยวนรวม 10 กว่าราชวงศ์ จนสำเร็จผลขึ้นเป็นกลุ่มถ้ำหินที่มีขนาดใหญ่โตมหึมา ประกอบด้วยเนื้อหาสาระ ที่มีความสมบูรณ์แบบ นับเป็นขุมทรัพย์อันล้ำค่าแห่งพุทธปฏิมาศิลป์ที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร และได้รับการอนุรักษ์ไว้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดของโลกจนถึงปัจจุบัน จนได้รับฉายานามว่า “เพชรน้ำหนึ่งแห่งศิลปะตะวันออก”
ถ้ำโม่เกาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองตุนหวง
ในช่วงบ่ายกลุ่มที่ 2 รับไม้ต่อมุ่งสู่เมืองฮามิ ซึ่งห่างออกไปราว ๆ 420 กม. เส้นทางส่วนมากจะเป็นทางตรงห้อมล้อมด้วยทะเลทรายเช่นเดิม แต่ก็ถือว่าเป็นทัศนียภาพที่แปลกใหม่และดูน่าสนใจ ท้าทายไม่น้อย โดยเมื่อเข้าเขตทะเลทรายอากาศค่อนข้างร้อน บางช่วงของการเดินทางต้องข้ามผ่านส่วนหนึ่งของทะเลทรายโกบี ซึ่งมีลมแรงมาก แต่ช่วงล่าง DCS และ Firm Platform ก็ยังนิ่ง ไม่ไหวติงหรือออกอาการวอกแวก ใช้เวลาไมนานก็เดินทางจนครบ 420 กม. ถึงเป้าหมายที่เมืองฮามิในช่วงเย็น อันเป็นเมืองหน้าด่านของมณฑลซินเจียง มีของขึ้นชื่อและต้องห้ามพลาด คือ แตงฮามิ ซึ่งมีการปลูกเฉพาะที่เมืองนี้ หลังจากเติมพลังมื้อค่ำกันเป็นที่เรียบร้อย คณะ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ก็พักผ่อนเพื่อเก็บแรงและเตรียมความพร้อมของการเดินทางต่อในวันรุ่งขึ้น เนื่องจากในทริปนี้ นอกจากจะเป็นการพิสูจน์สมรรถนะของ Toyota Hilux REVO ทั้งความหนึบ แกร่ง ทนทาน กับการขับจริงบนเส้นทางระดับโลกแล้ว ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของผู้เดินทาง ซึ่งส่งผลโดยตรงเรื่องของความปลอดภัยอีกด้วย
การเดินทางของ Toyota Hilux REVO คาราวานทริป บทพิสูจน์จริงระดับโลก ยังไม่จบเพียงเท่านี้ และแน่นอนว่านยังมีความท้าทายอื่นๆ รออยู่อีกมากมาย บนเส้นทางกว่า 14,000 กม. ที่เหลือ ซึ่งทาง BoxzaRacing รวมถึง www.facebook.com/toyotahiluxthailand และ www.toyota.co.th/hiluxrevocaravantrip จะเกาะติดสถานการณ์และรายงานให้ได้ทราบกันอย่างต่อเนื่อง